ความเสียหายส่วนแรก
ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบเองต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง ดังนี้
(ก) 1,000 บาทแรกของความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ หรือกรณีที่เกิดจากการชนแต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้
(ข) ตามจำนวนเงินส่วนแรกของความเสียหายดังระบุไว้ในตาราง
(ค) 6,000 บาทแรกของความเสียหายต่อรถยนต์ ที่เกิดจากการชน การคว่ำ ในกรณีเป็นการประกันภัยประเภทระบุชื่อผู้ขับขี่ หากผู้ขับขี่รถยนต์คันเอาประกันภัยในขณะเกิดอุบัติเหตุ มิใช่ผู้ขับขี่ที่ระบุชื่อในกรมธรรม์ประกันภัย
ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบตามข้อต่างๆ ดังกล่าวเกินกว่าหนึ่งข้อ ให้ถือว่าความรับผิดชอบแต่ละข้อเป็นความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น
ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดในความเสียหายส่วนแรกตาม (ข) และ (ค) หากความเสียหายนั้น เกิดขึ้นจากการกระทำของบุคคลภายนอกและรู้ตัวผู้ต้องรับผิดตามกฏหมาย ซึ่งมีผลทำให้บริษัทมีสิทธิที่จะเรียกค่าเสียหายที่บริษัทได้จ่ายไปคืนจากบุคคลภายนอกได้
ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกเอง ตาม (ก) (ข) และ (ค) บริษัทจะจ่ายแทนผู้เอาประกันภัยไปก่อน เมื่อบริษัทได้จ่ายเงินที่ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยต้องใช้คืนให้บริษัทภายใน 7 วัน นับแต่ได้รับหนังสือเรียกร้องจากบริษัท
การกำหนดเงื่อนไขกรมธรรม์ประกันภัยนี้ขึ้น เพื่อป้องกันบุคคลที่ประสงค์จะทำสีรถยนต์โดยไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจริง เป็นเหตุให้ผู้เอาประกันภัยส่วนใหญ่ต้องแบกรับภาระเบี้ยประกันภัยที่สูงขึ้น และกรณีที่เกิดการชนขึ้นจริง แต่ผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งคู่กรณีให้บริษัททราบได้ ภาระในการรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรกของผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก จำนวน 1,000 บาทต่อเหตุการณ์แต่ละครั้งของการเกิดอุบัติเหตุใน 2 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1 รถได้รับความเสียหายอันมิได้เกิดจากการชนหรือคว่ำ ได้แก่
- ความเสียหายจากการมุ่งร้าย กลั่นแกล้ง เช่น รถถูกบุคคลอื่นทุบทำลาย ขูดขีดหรือขีดข่วนให้ได้รับความเสียหาย โดยไม่สามารถระบุตัวผู้กระทำ วัน เวลา และสถานที่ที่รถได้รับความเสียหายได้ชัดเจน
- ความเสียหายจากการกระทบกับวัตถุ สิ่งของ ทำให้รถได้รับความเสียหายเฉพาะพื้นผิวของสีรถ โดยไม่ทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถ และ/หรือ อุปกรณ์ของรถได้รับความเสียหายถึงขนาด บุบ แตก ร้าว
- ไม่สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้รถได้รับความเสียหายได้ชัดเจน รวมถึงไม่สามารถระบุวัน เวลา และสถานที่ที่รถได้รับความเสียหายได้ชัดเจน
ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้รวมถึงความเสียหายจากภัยธรรมชาติซึ่งทำให้ส่วนหนึ่งส่วนใดของตัวรถนอกจากพื้นผิวของสีรถเสียหายด้วย เช่น รถยนต์เสียหายจากภัยน้ำท่วม ลมพายุพัดต้นไม้หักมาทับรถได้รับความเสียหาย กิ่งไม่ขนาดใหญ่หล่นใส่รถเห็นเหตุให้รถบุบ เป็นต้น
กรณีที่ 2 รถยนต์คันที่เอาประกันภัยเกิดเหตุได้รับความเสียหายอันเกิดจากการชน และผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้นั้น หมายถึง กรณีที่รถยนต์คันเอาประกันภัยถูกรถยนต์คันอื่นเฉี่ยวชนหรือเฉี่ยวชนรถยนต์คันอื่นได้รับความเสียหายและผู้เอาประกันภัยไม่สามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งได้เท่านั้น
กรณีรถยนต์ชนกับสิ่งอื่นที่ไม่ใช่รถยนต์ เช่น รั้ว ต้นไม้ สัตว์ ก้อนหิน ฯลฯ ที่ทำให้ตัวรถ และ/หรือ อุปกรณ์ได้รับความเสียหาย บุบ แตก ร้าว ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายส่วนแรก แต่ต้องสามารถแจ้งให้บริษัททราบถึงลักษณะการเกิดเหตุ วัน เวลา และสถานที่อย่างชัดแจ้ง